'ไอที vs ผู้สูงอายุ' คู่ปรับ เส้นขนาน หรือทางเดียวกัน

พาไปรู้จักกับผู้สูงอายุที่ไม่ปล่อยให้เวลาทำลายความพยายามและการเรียนรู้ ตั้งกลุ่มศึกษาเทคโนโลยี จนหลายคนใช้คอมพิวเตอร์ เฟซบุ๊ก และออกแบบการ์ดอวยพรได้เอง...

ก่อนหน้านี้ ทีมข่าวไอทีออนไลน์ เคยนำเสนอเรื่องราวของผู้สูงอายุไทยหัวใจไฮเทค ที่จับกลุ่มรวมแก๊งกันเรียน-เล่นเทคโนโลยีอย่างมีความสุข คราวนี้ถึงโอกาสดี เพราะนอกจากวันที่ 13 เม.ย. จะเป็นวันมหาสงกรานต์แล้ว ทุกปีก็ยังถือเป็น "วันผู้สูงอายุแห่งชาติ" ซึ่งเราจะพาไปรู้จักคุณปู่ คุณย่า ที่หัวใจยังเข้มแข็งพร้อมต่อสู้กับวัย และเปิดรับเทคโนโลยีที่ไม่เคยเรียนรู้มาก่อนได้ แบบไม่กลัวเกรง!

ตามความคิดของใครหลายคน คงมองผู้สูงอายุเป็นเพียงคนวัยหลังเกษียณที่เริ่มกลายเป็นจุดอ่อนในครอบครัว จากทัศนคติแบบผิดๆ แต่เดี๋ยวนี้...คนสูงวัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ หรือรุ่นปู่ย่าตายายของหลายคนนั้นไม่ได้เป็นเพียงผู้ที่มีอายุมากและสวนทางกับเทคโนโลยีอีกต่อไป จากการก่อตั้งชมรมโอพีพีวาย (Old People Playing Young : OPPY) หรือชมรมคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเพื่อผู้สูงวัย ซึ่งการันตีความสนใจและความสนุกที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีของผู้สูงอายุด้วยการฉลองครบรอบ 12 ปี ของชมรม ด้วยจำนวนสมาชิก 3,700 คน จบหลักสูตรไปแล้วกว่า 104 รุ่น ก็ยืนยันได้แล้วว่า ไม่มีคำว่าสายไปสำหรับการเรียนรู้

จากแนวคิดของ คุณหญิงชัชนี จาติกวณิช ประธานชมรมโอพีพีวาย ในฐานะผู้ริเริ่มชมรม ซึ่งต้องการเปิดโอกาสให้ผู้ที่อายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไปได้เรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต เพิ่มทางเลือกให้ผู้สูงอายุได้มีความสุขจากบรรยากาศการเรียนที่สนุกสนานและลดช่องว่างระหว่างวัยกับลูกหลาน

ด้าน นางสาวสุธีรา จำลองศุภลักษณ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายเลิร์นนิ่งมีเดีย บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือครูเจี๊ยบ ครูใหญ่ชมรมโอพีพีวาย กล่าวว่า ลูกศิษย์สูงวัยหลายรายยอมรับว่ามีลูกหลานเก่งและเชี่ยวชาญเทคโนโลยี แต่สอนกันเองไม่ได้เพราะไม่สอนและไม่ใจเย็นพอที่จะสอน บางรายก็มาเรียนเพราะลูกหลานอยากให้มา จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และยังได้กระตุ้นการใช้สมองชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งในชั้นเรียนของชมรมไม่ได้มีแต่เรื่องความรู้ใหม่ๆ แต่พวกเขายังมีสังคม มีกลุ่มเพื่อนในวัยเดียวกันคุยกันได้เข้าใจ

"เรามีลูกศิษย์กลุ่มที่เรียนกันมายาวนานเป็น 10 ปี ชื่อกลุ่มคนรักวันอาทิตย์ ไม่เกี่ยวกับเรื่องทางการเมือง แต่ชื่อนี้เพราะเขาจองเรียนวันอาทิตย์เป็นประจำ สำหรับกลุ่มนี้มีสมาชิกอายุตั้งแต่ 55-79 ปี มีหลายอายุ หลากหลายอาชีพ ทั้งคนที่เกษียณแล้ว เจ้าของกิจการ แม่บ้าน เวลาเรียนพวกเขาไม่ได้แค่มาเรียนรู้ แต่เขามาสร้างสังคม มีจัดกิจกรรมออกไปไหว้พระทำบุญ ท่องเที่ยวนอกสถานที่ ซึ่งทุกคนช่วยเหลือกันและสนุกสนานเต็มที่ เวลาเรียนก็เรียนเต็มที่ กล้าซักถาม ไม่ต้องอายว่าใครจะบ่นว่าเมื่อเขาไม่รู้ไม่เข้าใจ" ครูเจี๊ยบ กล่าว

ครูเจี๊ยบ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า นอกจากคอมพิวเตอร์เบื้องต้นซึ่งสอนตั้งแต่การเปิด-ปิดเครื่องที่ทุกคนต้องเรียนเป็นหลักสูตรแรก ชมรมโอพีพีวายยังมีสอนการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอล การใช้เฟซบุ๊ก สไกป์ การใช้ไอโฟน และไอแพด 2 ซึ่งหลักสูตรไอแพด 2 ได้รับความนิยมสูงสุดเรียกว่าเปิดสอนเมื่อไหร่ก็ถูกจองเต็มทุกชั้นเรียน ตอนนี้ลูกศิษย์ทุกคนมีอีเมล์ เฟซบุ๊ก สไกป์ เป็นโปรแกรมพื้นฐาน บางคนพัฒนาไปไกลถึงขั้นใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ ออกแบบการ์ด ทำนามบัตร และจัดพิมพ์หนังสือได้

"ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้คงบอกได้แค่ว่า 12 ปีที่ผ่านมา มันทำให้เรารู้สึกเป็นสุขและภาคภูมิใจ ได้เห็นพวกเขาตั้งแต่ตอนที่เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เป็น แต่วันนี้หลายคนพัฒนาไปไกลมากอย่างที่เราคาดไม่ถึง ไม่ว่ายังไงก็คงจะพัฒนาหลักสูตร หาเรื่องใหม่ๆ มาสอนลูกศิษย์เหล่านี้ต่อไป" ครูเจี๊ยบกล่าวในตอนท้าย

นางพึงใจ สุขเสวี สมาชิกรุ่น 104 อายุ 88 ปี กล่าวอย่างมีความสุขว่า รู้สึกสนุกที่ได้มาเรียนคอมพิวเตอร์ แม้จะเป็นนักเรียนที่อายุมากที่สุด และปัจจุบันก็ยังใช้งานคอมพิวเตอร์ไม่คล่องแต่ก็ตั้งใจจะเรียนหลักสูตรอื่นๆ ต่อไป เพราะเชื่อว่าการเรียนคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และได้ฝึกสมอง โดยหลังจากที่ใช้งานได้คล่องแล้วก็ตั้งใจจะซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ให้ทันสมัยขึ้นด้วย

พล.อ.ท.ดิเรก สังข์สุวรรณ สมาชิกชมรมโอพีพีวาย รุ่น 11 อายุ 78 ปี ย้อนอดีตให้ฟังว่า เรียนคอมพิวเตอร์กับกลุ่มคนรักวันอาทิตย์มานานเกือบ 10 ปี จนปัจจุบันสามารถใช้คอมพิวเตอร์และโปรแกรมต่างๆ เช่น พิมพ์เอกสาร เฟซบุ๊ก ตกแต่งภาพ และการ์ดอวยพรได้ด้วยตนเอง จุดเริ่มต้นที่ได้เข้ามาเรียนกับชมรมโอพีพีวายเพราะมีเพื่อนแนะนำและลูกหลานก็สนับสนุน ประกอบกับช่วงเริ่มเรียนนั้นตนเองยังสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนรักษาความปลอดภัย จึงต้องการเพิ่มเติมความรู้เพื่อนำไปใช้กับโปรแกรมพาวเวอร์พอยต์เพื่อทำสื่อการสอน

"พอมาเรียนแล้วสร้างผลงานได้มากมายเราก็รู้สึกดีใจ ลูกหลานก็ภูมิใจ ตั้งใจไว้ว่าจะเลิกเรียนเมื่อหมดลม จะมาจนกว่าจะมาไม่ไหว ได้เรียนร่วมกับเพื่อนก็มีความสุขใจ สนุก ถือเป็นคุณค่าทางใจที่ผู้สูงวัยต้องการ" สมาชิกกลุ่มคนรักวันอาทิตย์ กล่าว

ไทยรัฐออนไลน์
ฉบับวันที่ 12 เมษายน 2555
Source: www.thairath.co.th/content/251947