เรียนรู้ตลอดชีวิต แนวคิดใหม่ของคนไทยคุณภาพ

สารไทฉบับนี้ขอนำท่านไปพูดคุยกับคุณหญิงชัชนี จาติกวณิช ประธานกิติมศักดิ์ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ซึ่งเป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงคำว่า "เรียนรู้ตลอดชีวิต" ได้อย่างชัดเจน

 

"ดิฉันเกิดในครอบครัวที่ถูกเลี้ยงดูอย่างเคร่งครัดตามแบบการเลี้ยงดูสมัยก่อนไม่ได้ปล่อยให้ลูกหลานอิสระเหมือนสมัยนี้ถึงจะเป็นลูกสาวเจ้าสัวก็ต้องทำงานทุกอย่างกวาดพื้นซักผ้าตัดเสื้อเองจะไปไหนมาไหนก็ต้องขออนุญาตไม่เหมือนกับเด็กสมัยนี้ คนรุ่นนั้นค่อนข้างจะมีระเบียบกฏเกณฑ์หน่อย ตอนจบม.8 ก็ไม่เรียนต่อเกรเรอยู่บ้าน ก็เลยถูกคุณพ่อคุณแม่จับเรียนภาษาอังกฤษ มีครูพิเศษมาสอนถึงบ้าน 2 ปี พอดีคุณพ่อเสีย คุณแม่จึงให้ไปฝึกงานที่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ ไปฝึกกับฝรั่ง เริ่มงานในตำแหน่งเสมียนพิมพ์ดีด ทำไปได้ซักพักหนึ่งฝรั่งผู้บังคับบัญชาก็ถามว่า มานั่งทำอย่างนี้ทำไมเสียเวลาเปล่าๆ ทำไมไม่ไปเรียนเมืองนอก ดิฉันบอกคุณแม่คงไม่ยอม ฝรั่งเขารับปากไปคุยกับคุณแม่ให้ ก็ตกลงกันได้ว่า จะไปเรียนที่อังกฤษ 2 ปี จึงไปเรียนวิชาธุรกิจขั้นพื้นฐานและวิชาเลขานุการ กลับมาก็มาทำงานที่เดิม  ไต่เต้าขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นกรรมการผู้จัดการแทนฝรั่งที่เขาเกษียณไป ต่อมาก็ได้เป็นทั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ พออายุ 60 ปี ก็ขอเกษียณตัวเองเพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาบริหารงาน เขาก็ให้เกียรติเชิญขึ้นเป็นประธานกิติมศักดิ์"

 

จากลูกสาวในตระกูลพ่อค้าใหญ่ ไต่เต้าจนมาถึงระดับผู้บริหารของบริษัท ล็อกซเล่ย์ การเรียนรู้ของคุณหญิงก็ยังก้าวเดินไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ท่านมีความเห็นว่า ยิ่งถ้าเรามีโอกาสในชีวิตมากกว่าผู้อื่น ก็ต้องเรียนรู้ให้หนักกว่าผู้อื่น โดยเฉพาะเรื่องคอมพิวเตอร์ที่นับวันจะมีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้สูงวัย สิ่งนี้ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้กับคุณหญิงในการเปิดสอนหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตให้กับผู้สูงวัย ภายใต้ชื่อ OPPY (Old People Playing Young Club)

 

"ย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน เวลานั้นที่อเมริกาผู้สูงวัยเข้าใช้อินเทอร์เน็ตกันมาก ฝรั่งที่โน่นเขาใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเพื่อนและหาความรู้ไปด้วย เลยคิดว่าน่าที่จะมาทำอะไรสักอย่างที่ให้คนไทยผู้สูงวัยมีความรู้ในด้านนี้ แล้วเราเองก็อยู่ในวงการนี้อยู่แล้ว มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร และเครื่องไม้เครื่องมือ พอดีมีอพาร์ทเมนต์ว่างๆ อยู่ข้างบ้าน ก็เฃยขอคอมพิวเตอร์มาตั้ง และขอครูมาจากบริษัท ล็อกซอินโฟ จำกัด แล้วก็ชักชวนเพื่อน พี่ๆ น้องๆ มาทดลองกันกลุ่มเล็กๆ ก่อน ได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ก็เลยต้องขยายกิจการ เพิ่มห้องเรียน และเพิ่มรอบเวลาเรียน แสดงให้เห็นว่าผู้สูงวัยนั้นเขาก็อยากที่จะเรียนแต่ไม่รู้จะไปเรียนที่ไหน"

 

จุดเด่นของ OPPY คือการเรียนการสอนที่จัดเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ให้ครูได้เข้าถึงตัวนักเรียนและดูแลอย่างใกล้ชิด มีการสอนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง ซึ่งได้ผลกว่าปล่อยให้ผู้สูงอายุเรียนรู้ด้วยตนเองหรือให้ลูกหลานสอนที่บ้าน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้สมาชิกได้มาเรียนรู้และหย่อนใจ เช่น ห่อของขวัญ จัดดอกไม้ เรียนเต้นรำ วาดภาพ ฯลฯ OPPY จึงกลายเป็นชมรมที่ผู้สูงวัยใช้เป็นศูนย์กลางมาพบปะสังสรรค์กันไปในตัว

 

"การเข้าเป็นสมาชิกของ OPPY มีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวคือ ต้องอายุ 45 ปีขึ้นไป เพราะอายุ 45 เป็นจุดเริ่มต้นที่เราเริ่มจะสูงวัยแล้ว ปัจจุบันก็มีสมาชิกมากจากทุกแห่ง หลากหลายสาขาอาชีพ เพราะเราไม่ได้ปิดกั้นว่าคุณจะต้องไม่เป็นคอมพิวเตอร์ถึงจะมาสมัครได้"

 

ก่อนจากกัน คุณหญิงชัชนี จาติกวณิช ได้ฝากข้อคิดสั้นๆ ให้กับผู้ที่ใฝ่การเรียนรู้และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขว่า "ความจริงเราเห็นมนุษย์ทุกคนด้วยเปลือก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่พี่น้อง ลูกหลาน สามีภรรยา เราจะไม่ได้รู้จักตัวตนจริงๆ ของเขา เพราะจิตมนุษย์นี้เราไม่สามารถหยั่งรู้ได้ สิ่งที่เราควรจะทำก็คือ เราต้องมีความจริงใจ มีความบริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าเราจะทำอะไรผิด หรืออาจจะไม่ถูกใจเขา ก็ไม่เป็นไร เพราะมนุษย์ไม่ว่าใครก็เคยทำผิด ถ้าเรายึดหลักนี้ไว้ ถึงแม้เราทำผิด เขาก็จะให้อภัย ชีวิตเราก็จะอยู่อย่างมีความสุข"

 

สารไท (ธันวาคม 2547 - มีนาคม 2548)

Visitors: 214,025