จากเสมียนพิมพ์ดีดสู่ประธานล็อกซเล่ย์ คุณหญิงชัชนี จาติกวณิช

ในแวดวงธุรกิจชื่อของ คุณหญิงชัชนี จาติกวณิช ได้รับการกล่าวขานมานานแล้วว่า เธอเป็นสตรีแกร่งและเก่ง เป็นยอดนักบริหารมืออาชีพ เป็นประธานหญิงคนแรกและคนเดียวแห่งบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำพาอณาจักรยักษ์ใหญ่แห่งธุรกิจหลากหลายรวมทั้งด้านเทคโนโลยีระดับสูงให้ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ รวมเป็นเวลากว่า 60 ปีแล้ว ที่สำคัญที่สุดคุณหญิงชัชนียังได้รับการยอมรับว่าเป็นนักบริหารที่มีความสามารถ มือสะอาด และมีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม จนครั้งหนึ่งเคยมีผู้กล่าวว่า หากเมืองไทยจะมี "นายกรัฐมนตรีหญิง" แล้วไซร้เธอผู้นี้ก็คือหนึ่งในบุคคลที่เหมาะสมที่สุด

 

คุณหญิงกล่าวว่าเธอมีโอกาสดีกว่าคนอื่นตรงที่ได้เข้ามาอยู่ในสถาบันที่มั่นคง และขณะเดียวกันตระกูลล่ำซำเป็นตระกูลที่ไม่เล่นพวก ถ้าทำดีก็ได้รับการสนับสนุน ถ้าทำไม่ดีก็ถูกลงโทษมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ "ดังนั้น แม้มีบันไดทองมาพาดให้ก้าวขึ้น แต่เราก็มีหน้าที่ต้องประพฤติปฏิบัติ นอกจากจะต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ผู้ใหญ่ยังสอนสั่งลูกหลานทุกคนให้ยึดหลัก 3 ข้อคือ มีคุณธรรม มีศีลธรรม และซื่อสัตย์สุจริตอีกด้วย"

 

ในช่วงที่คุณหญิงบริหารงานนั้นยังได้ก่อตั้งบริษัทในเครืออีกมากมาย รวมทั้งบริษัทที่ช่วยจำหน่ายนมหนองโพให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป โดยได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ต่อสังคม ภายใต้พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

ในการทำงานนั้น คุณหญิงกล่าวว่า "ทำคนเดียวเก่งคนเดียวไม่ได้... ต้องยอมรับว่าที่เราสำเร็จขึ้นมาได้นั้นเพราะคนรอบข้างเก่งและพวกเขาเป็นคนทำให้ทั้งนั้น"คุณหญิงเน้นว่า หัวใจใหญ่ของงานคือ คนและการปกครองคน คนเป็นนายต้องมีลีดเดอร์ชิพ (ความเป็นผู้นำ) "เราไม่ได้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี  การประมูลดาวเทียมเราไม่มีความรู้ แต่มีคนเสนอโครงการมาให้ เรามีหน้าที่ดูและฟัง แล้วพิจารณาว่ามันมีประโยชน์ก็ตัดสินใจให้ทำ ถ้าประสบความสำเร็จเราก็ดีใจ เขาก็ได้หน้าเพราะเขาทำ แต่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ อย่าไปโทษเขาเราต้องรับผิดชอบ และเราต้องดูแลเขา ไม่ใช่แค่ให้เงินเดือน แต่ต้องดูสารทุกข์สุขดิบด้วย มันเป็นมิตรกะจิตมิตรกะใจ"จึงไม่น่าแปลกใจที่นักบริหารผู้นี้จะได้รับรางวัลยกย่องจากหลายสถาบัน อาทิ ได้รับเลือกจากสมาคมเลขานุการสตรีแห่งประเทศไทยให้เป็น "บอส ออฟ เดอะ เยี่ยร์" เมื่อปี 2527 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการจัดการ จากวิทยาลัยโยนก จ.ลำปาง ในปี 2543 และได้รับรางวัล "นักการตลาดเกียรติคุณ" จากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ในปี 2544 รวมทั้งรางวัลหนึ่งใน 10 ผู้หญิงเก่งแห่งปี ฉลองครบรอบ 10 ปีของรายการ "บ้านเลขที่ 5" ในปี 2545 และเหนืออื่นใดคือ ได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตติยจุลจอมเกล้าเมื่อปี 2526

 

กำลังใจสำคัญของคุณหญิงคือครอบครัวโดยเฉพาะ ดร.เกษม จาติกวณิช ผู้เป็นสามี อดีตผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยคนแรกของประเทศ และลูกชายอีกสองคนรวมทั้งหลานๆ แม้จะเกษียณงานแล้ว แต่ทุกวันนี้ในวัย 77 ปี คุณหญิงยังคงมีไฟในการทำงานอยู่ โดยช่วยงานของบริษัทในเครือล็อกซเล่ย์ รวมทั้งเป็นประธานกิติมศักดิ์ของ บริษัท เยนเนอรัล เอนยิเนียริ่ง จำกัด ด้วย

 

คุณหญิงไม่ยอมปล่อยให้ตัวเลขของอายุที่เพิ่มขึ้นมาเป็นอุปสรรคในชีวิตจึงได้จัดตั้งชมรม "โอพีพีวาย (OPPY ย่อมาจาก Old People Playing Young Club) สอนคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตแก่ผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป เพราะ "คุณย่าดอทคอม" ผู้นี้เล็งเห็นว่า การเป็นผู้สูงวัยที่ยังกระฉับกระเฉงและมีคุณค่า ควรเป็นผู้ที่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ทันสมัยที่ไม่เกินขีดความสามารถของสังขารและวัย เมื่อชมรม OPPY เปิดทำการเมื่อกว่า 5 ปีที่แล้ว จึงได้รับการตอบสนองอย่างท่วมท้นกว่าพันคน นับว่าโครงการนี้ช่วยลดช่องว่างในครอบครัวระหว่างผู้สูงวัยและลูกหลาน และเป็นทางเลือกหนึ่งที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า เป็นการลดภาระของครอบครัวและประเทศชาติ

 

ประจวบเหมาะกับโครงการนี้ไปพ้องตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระราชเสาวนีย์เมื่อวันเฉลิมพระชนมพรรษาประมาณ 2 ปีที่แล้วว่า "ผู้สูงวัยเมื่อเกษียณแล้วยังมีพลังและสมองอยู่ ดังนั้นน่าจะทำเป็นคลังสมองได้"

 

สำหรับกิจกรรมอื่นๆ ด้านสังคมนั้น คุณหญิงเป็นผู้ก่อตั้ง "มูลนิธิแม่บ้านอาสา" เมื่อปี 2515 ร่วมกับตำรวจตระเวณชายแดน จัดทำผ้าผูกคอลูกเสือชาวบ้านทั้งหมดทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพระราชทานแก่ผู้สำเร็จการอบรมลูกเสือชาวบ้าน อีกทั้งยังเป็นรองประธาน "มูลนิธิธารน้ำใจ" กิจกรรมหลักคือ ค้นหาคนไทยตัวอย่าง ที่ทำคุณประโยชน์ให้สังคมเป็นเวลาติดต่อกันหลายปี และมีความประพฤติส่วนตัวดีนำเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

 

"เราเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งคิดว่าอะไรที่พึงจะทำให้กับสังคมได้ไม่ว่าทางไหนนั่นก็คือการดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถแล้วนั่นเอง" คุณหญิงชัชนีกล่าวปิดท้าย

 

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ฉบับวันที่ 5 สิงหาคม 2547

Visitors: 213,995